สถิติ

74705498

สยามเฮลท์ กรุ๊ป ปรับกลยุทธ์ดันยอดขายปี68 แตะ4,000ลบ. หลังนักท่องเที่ยวทรุด    

หมวดหมู่: ตลาด/ไอที

   สยามเฮลท์ กรุ๊ป ปรับกลยุทธ์ดันยอดขายปี68 แตะ4,000ลบ. หลังนักท่องเที่ยวทรุด

   รุก!ตปท.-หนุนแปรงสีฟัน/ผุดเซรัมโต-คอลแลปส์พันธมิตรทุ่ม250ลบ.รับยาสีฟันฟรี 

   เภสัชกร ดร.แสงสุข พิทยานุกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดยาสีฟันพรีเมียมในประเทศไทยในปี 2567 มีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 20,000 ล้านบาทและเติบโต 6% โดย เดนทิสเต้ เป็นผู้นำตลาดอันดับหนึ่ง

   ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 10% และมีการเติบโตด้านยอดขายเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่มตลาดพรีเมียมติดต่อกันตั้งแต่ปี 2565–2568 ในอัตรามากกว่า 20% ทุกปี และมีเป้าหมายก้าวเป็นผู้นำในเอเชีย ปัจจุบันทำตลาดอยู่ใน 30 ประเทศทั่วโลก

   โดยในปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายจำนวน 3,000-4,000 ล้านบาท หรืออัตราการเติบโตไว้ 2 หลัก ทั้ง เดนทิสเต้ และ สมูท อี ในขณะที่สัดส่วนรายได้นั้นปัจจุบัน เดนทิสเต้ มากกว่า สมูทอี จากเดิมที่เคยมีสัดส่วนเท่ากันที่ 50 : 50 

   อย่างไรก็ตามยอดขายล่าสุดยังคงเติบโต 2 หลัก แต่ทั้งนี้ความท้าทายและผลกระทบคือ จำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ส่งผลต่อยอดขายในประเทศ เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศนิยมซื้อเดนทิสเต้กลับประเทศตนเอง 

   ดังนั้นกลยุทธ์ที่บริษัทจะสร้างการเติบโตในปรเเทศตามเป้าหมายที่ตั้งไว้คือ การสร้างการเติบโตของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีอยู่ ทั้งแปรงสีฟัน จากปัจจุบันมีส่วนแบ่งทางการตลาด 4% ก็เพิ่มเป็น 8% ด้วยกลยุทธ์ทางการตลาดร่วมกับร้านค้าพันธมิตร

   นอกจากนั้นยังมีน้ำยาบ้วนปาก จากส่วนแบ่งทางการตลาดเพียง 0.5% เพิ่มเป็น 2% รวมถึง Mouth Spray ที่ยังมีการเติบโตกว่า 30% และเป็นอันดับหนึ่งของตลาดในปี 2567

   รวมถึงเตรียมออกนวัตกรรมใหม่ เซรัม เคลือบฟัน แบรนด์ใหม่ REMIN เพื่อสร้างความแข็งแรงให้กับฟันที่สึกหรอหรือบางลง โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายอายุ 40 ปีขึ้นไป

   สำหรับการทำตลาดต่างประเทศนั้นปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายมากกว่าในประเทศจากเดิมที่สัดส่วนเท่ากันที่ 50 : 50 ซึ่งรับจากอานิสงส์ที่เมื่อนักท่องเที่ยวมาไทยน้อยลงก็มีการซื้อในต่างประเทศมากขึ้น

   รวมถึงการทำตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่องโดยเจาะกลุ่มยาสีฟันระดับพรีเมียม เป็นหลัก ซึ่งส่วนแบ่งทางการตลาดจะมีอยู่ที่ 7% ของแต่ละประเทศ ครอบคลุมภูมิภาคเอเชีย ทั้ง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และ สิงคโปร์ เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีในตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา

   ซึ่งในปีนี้ก็เตรียมขยายตลาดไปยังลาตินอเมริกา ทั้ง บราซิล เม็กซิโกและชิลี เป็นหลัก อย่างไรก็ตามการเติบโตในต่างประเทศจากปี 2567 โต 27% แต่ในปี 2568 คาดว่าจะเติบโต 12% ปรับตัวลดลงเนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการลงทุนและทำตลาดเพื่อการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป   

   เภสัชกร ดร.แสงสุข กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนั้นบริษัทยังขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวคิดด้านยั่งยืนตลอด 20 ปี โดยมุ่งส่งเสริม “คน” จึงมุ่งส่งเสริมให้คนไทยและคนทั่วโลกมีสุขภาพช่องปากและความสัมพันธ์ที่ดี ด้วยผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากครบวงจรที่ได้รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ในคลินิกทันตกรรมกว่า 10,000 แห่งทั่วไทย

   ดังนั้นจึงได้นำกลยุทธ์การคอลแลปส์มาจัดกิจกรรมเพื่อสังคม โดยการประกาศความร่วมมือข้ามสายธุรกิจครั้งแรกกับแบรนด์แฟชั่นรักษ์โลก “ภิพัชรา” (PIPATCHARA) และสายการบินแห่งชาติ “การบินไทย” ทุ่มงบ 250 ล้านบาท เดินหน้ากลยุทธ์ “DEN”

   ขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วยการคอลแลปส์กับภิพัชรา ครั้งแรกกับการสร้างสรรค์ไอเทมแฟชั่นจากแปรงสีฟันที่ใช้แล้ว โดยเปิดโอกาสให้คนไทยทั้งประเทศได้มีส่วนร่วมสร้างความยั่งยืนด้วยการนำแปรงสีฟัน-ยาสีฟันเก่ามาแลกเดนทิสเต้ฟรีตลอดปี

   นอกจากนี้ เดนทิสเต้ ยังได้จับมือการบินไทย เปิดตัว DENTISTE’ Oral Care Set สุดเอ็กซ์คลูซีฟกว่า 3.8 ล้านชุด มอบประสบการณ์การดูแลสุขภาพช่องปากสุดพิเศษ

   ให้กับผู้โดยสารการบินไทยในเส้นทางระหว่างประเทศ พร้อมเปิดตัวบริการสมัครสมาชิกเดนทิสเต้ ส่งตรงผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากเดนทิสเต้ที่สุดคุ้มค่าและตอบโจทย์ลูกค้าถึงบ้าน 

                              

   สำหรับครึ่งหลังของปี 2568 เดนทิสเต้ เดินหน้ากลยุทธ์ “DEN” ที่เน้นความยั่งยืนและส่งเสริมการมีสุขภาพช่องปากที่ดีให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง ได้แก่  

  1. Driving Sustainability ขับเคลื่อนความยั่งยืนด้วยการคอลแลปส์กับแบรนด์ภิพัชรา ส่งเสริมการนำหลอดยาสีฟันและแปรงสีฟันมาแลกผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ฟรีทั่วประเทศ ก่อนนำไปผลิตเป็นแฟชั่นไอเทมรักษ์โลก สร้างสรรค์โดยภิพัชรา ได้ตั่งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป
  2. Elevating DENTISTE’ Exclusive Experience ร่วมกับการบินไทย ส่งชุดผลิตภัณฑ์ DENTISTE’ Oral Care Set รุ่น Limited Edition สร้างประสบการณ์ดูแลช่องปากสุดพิเศษให้กับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาสและชั้นธุรกิจ รวมกว่า 8 ล้านชุดใน 18 เดือน บนเส้นทางระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 มิถุนายน 2568) เป็นต้นไป
  3. New Personalized Subscription Program โปรแกรมการสมัครสมาชิกของเดนทิสเต้ถือเป็นโมเดลธุรกิจใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า โดยจะได้รับผลิตภัณฑ์ตรงตามความต้องการส่วนบุคคลส่งตรงถึงบ้านในราคาพิเศษ โดยลูกค้า 100 ท่านแรกจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ ลดถึง 90% และลูกค้าทั่วไปจะได้รับส่วนลด 50% ซึ่งมีทั้งช่วงทดลอง และแบบแพ็คเกจรายปี

   "ภูมิใจที่เดนทิสเต้ได้มีส่วนร่วมสร้างคุณค่าให้กับสังคมผ่านทุกแคมเปญ สอดคล้องหลัก ESG เน้นการดูแลสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล หวังว่าความร่วมมือครั้งยิ่งใหญ่ในครั้งนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย

   สนับสนุนให้มีสุขภาพช่องปากที่ดี ลดฟันผุต่ำกว่า 50% พร้อมชูแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากระดับพรีเมียมของไทยขึ้นแท่นผู้นำอันดับหนึ่งของเอเชียในเร็ววันนี้” เภสัชกร ดร.แสงสุข กล่าวย้ำ

   นายศิวกร พิทยานุกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ บริษัท สยามเฮลท์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยถึง 5 ความต้องการของผู้บริโภคไทยและทั่วโลก ประกอบด้วย 1. ปัญหากลิ่นปากที่บ่งบอกถึงสุขภาพ 2. โรคเหงือกที่พบบ่อยวัย 40 ปีขึ้นไป

   3. ความต้องการมีฟันขาวของคนทุกเจน รับการกินดื่มยุคใหม่ที่ทำร้ายฟัน 4. อาการเสียวฟันที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน และ 5. ปัญหาฟันผุที่คนไทยเผชิญสูงถึง 96% ดังนั้นจึงมุ่งเป็น Initiator for Better Day โปรโมทให้คนไทยมีความสัมพันธ์ที่ดี มีสุขภาพร่างกายแลจิตใจที่ดี ลดการมีฟันผุ

   โดยมีแคมเปญ DENTISTE’ x PIPATCHARA ขึ้น เพื่อสร้างสรรค์แฟชั่นรักษ์โลกจากแปรงสีฟันที่ใช้แล้ว โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนคนไทยนำหลอดยาสีฟันและแปรงสีฟันใช้แล้วมาแลกรับผลิตภัณฑ์เดนทิสเต้ขนาด 20 กรัมได้ฟรีตลอดทั้งปีไม่มีจำกัด

   ที่คลินิกทันตกรรม 10,000 แห่ง ร้านขายยา P&F และร้านค้าทั่วไปที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมทั้งติดต่อสอบถามได้ทาง Facebook และ LINE OA ของเดนทิสเต้ 

   นางสาวภิพัชรา แก้วจินดา ดีไซเนอร์และผู้ก่อตั้งแบรนด์ภิพัชรา (PIPATCHARA) กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับเดนทิสเต้ เพราะโครงการนี้ได้เปลี่ยนแปรงสีฟันเก่าให้เป็นผลิตภัณฑ์แฟชั่นที่มีคุณค่า

   สอดคล้องแนวคิดแบรนด์ในด้าน Fashion from Community ถือเป็นการร่วมมือกันครั้งใหญ่ของคนไทยทั้งประเทศในการสร้างสรรค์แฟชั่นที่มีจุดเริ่มต้นจากของรอบตัวที่ทุกคนมี 

   นายกิตติพงษ์ สารสมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้าและการตลาด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับเดนทิสเต้ในครั้งนี้ เป็นการสร้างความสะดวกและประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพื่อผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส และชั้นธุรกิจ (Royal Silk)

   โดยจะนำชุด Oral Care Sets พิเศษจากเดนทิสเต้ให้บริการในเที่ยวบินเส้นทางสำคัญทั่วโลก เช่น ลอนดอน ปารีส มิวนิก ญี่ปุ่น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่งและมิลาน ต่อเนื่องเป็นเวลา 18 เดือน เชื่อมั่นว่า ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมสร้างและสะท้อนภาพลักษณ์ที่ดีในระดับสากลให้กับทั้งการบินไทยและเดนทิสเต้

10 มิถุนายน 2568

ผู้ชม 116 ครั้ง

Engine by shopup.com