สคบ. ประเมินผลสัมฤทธิ์ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
สคบ. ประเมินผลสัมฤทธิ์ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
สคบ. ประเมินผลสัมฤทธิ์ พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522
มุ่งปรับปรุงให้ทันยุค ยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคทั่วประเทศ
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้เป็นประธานโครงการประชุมรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ณ โรงแรมมารวย การ์เด้น กรุงเทพฯ
โดยมีผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ และเครือข่ายผู้บริโภคจากทั่วประเทศเข้าร่วมอย่างคับคั่ง เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูล วิเคราะห์ปัญหา และเสนอแนวทางในการปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัยและสอดคล้องกับสภาพสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
โครงการฯ นี้มีวัตถุประสงค์หลัก 3 ประการ ได้แก่
1) ปรับปรุงกระบวนการร้องทุกข์และดำเนินคดีให้สะดวกและรวดเร็ว โดยมุ่งเน้นการลดขั้นตอนที่ซับซ้อน เพิ่มประสิทธิภาพในการรับเรื่องร้องเรียนของผู้บริโภค และยกระดับการให้บริการด้านกฎหมายอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม
2) กระจายอำนาจสู่ระดับจังหวัดและท้องถิ่น โดยส่งเสริมให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคระดับจังหวัดและท้องถิ่น มีบทบาทและอำนาจในการแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ลดภาระการรวมศูนย์ที่ส่วนกลาง
3) ยกระดับมาตรฐานการติดฉลากสินค้านำเข้า โดยกำหนดให้ผู้ประกอบการที่จำหน่ายหรือนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศต้องจัดทำฉลากสินค้าที่มีข้อมูลชัดเจน ครบถ้วน และแสดงก่อนผ่านพิธีการศุลกากร
เพื่อให้ผู้บริโภคมีข้อมูลเพียงพอในการตัดสินใจซื้อสินค้า อันเป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี(นางสาวแพทองธาร ชินวัตร) ในการดูแลผู้บริโภคและควบคุมสินค้านำเข้าให้มีมาตรฐาน
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการทบทวนและปรับปรุงพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคฯ ให้มีความทันสมัย รองรับความเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจดิจิทัล และการบริโภคยุคใหม่ โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อสร้างระบบการคุ้มครองผู้บริโภคที่เข้มแข็งและยั่งยืน
08 มิถุนายน 2568
ผู้ชม 558 ครั้ง