สถิติ

74702058

VGI โชว์ผลประกอบการประจำปี 2567/68 กำไร 501 ล้านบาท  

   VGI โชว์ผลประกอบการประจำปี 2567/68 กำไร 501 ล้านบาท

   รายได้ธุรกิจสื่อโฆษณา-ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลโตตามเทรนด์

                                      

   บริษัท วีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ วีจีไอ (VGI) ผู้นำการตลาด Offline-to-Online (“O2O”) โซลูชันส์ ผ่านแพลตฟอร์มที่หลากหลาย รายงานผลการดำเนินงานประจำปี 2567/68 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการและการขายอยู่ที่ 5,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.4% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

   ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการเติบโตของรายได้ในธุรกิจสื่อโฆษณา และธุรกิจบริการด้านดิจิทัล ขณะที่ธุรกิจการจัดจำหน่ายรายได้ใกล้เคียงกันกับปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 501 ล้านบาท พลิกจากขาดทุนสุทธิในปีก่อน โดยกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ 114.4 % เทียบกับปีก่อน

   ธุรกิจสื่อโฆษณามีรายได้อยู่ที่ 2,416 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.7% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากสื่อโฆษณาทุกประเภท โดยเฉพาะสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชน ซึ่งมีอัตราการใช้สื่ออยู่ที่ 52% เพิ่มขึ้นจาก 48% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

   ธุรกิจบริการด้านดิจิทัลมีรายได้อยู่ที่ 1,646 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจาก RCash มีรายได้ดอกเบี้ยรับเพิ่มขึ้น ตามการปล่อยสินเชื่อดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดสินเชื่อทั้งสิ้น 1,035 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

   RCard มีรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้บัตร และรายได้จากการขายบัตรแรบบิทที่สูงขึ้น โดยมียอดบัตรแรบบิทที่เปิดใช้งานอยู่จำนวนทั้งสิ้น 19.6 ล้านใบ เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

   และ RCare มีรายได้ค่าคอมมิชชั่นจากการขายประกันภัยเพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนกรมธรรม์ทั้งสิ้น 234,801 กรมธรรม์ เพิ่มขึ้น 4.1% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นประกันภัยรถยนต์ 72% และประกันภัยประเภทอื่น ๆ 28% แต่การเพิ่มขึ้นดังกล่าวถูกหักกลบด้วยรายได้ lead generation ที่ลดลง

   ธุรกิจการจัดจำหน่ายมีรายได้อยู่ที่ 1,158 ล้านบาท ลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจากรายได้ของ Fanslink ลดลง จากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ลดสัดส่วนการขายสินค้าจากต่างประเทศลงและเน้นการพัฒนา

   และขายสินค้าภายใต้แบรนด์ของตนเองมากขึ้น เพื่อเพิ่มอัตรากำไร อย่างไรก็ตามการลดลงของรายได้ดังกล่าว ถูกชดเชยด้วยการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกิจค้าปลีกของ TURTLE โดยยอดขายจากสาขาเดิม (Same Store Sales) ของร้าน Turtle เพิ่มขึ้น 9.3% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 

   ขณะที่อัตราการเช่าพื้นที่เชิงพาณิชย์อยู่ที่ 64.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 58.2% ซึ่งในเดือนมีนาคม 2568 มีจำนวนร้าน Turtle ทั้งสิ้น 27 ร้าน เพิ่มขึ้นจาก 22 ร้าน ในเดือนมีนาคม 2567

   สำหรับเหตุการณ์สำคัญในปี 2567/68 คือการที่บริษัทได้ออก และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทให้แก่กลุ่มนักลงทุน 4 ราย โดยได้รับเงินเพิ่มทุนจำนวน 13,208 ล้านบาท

   และได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท ร็อคเทค โกลบอล จำกัด (มหาชน) (“ROCTEC”) ทั้งหมดที่บริษัทถือ ให้กับ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) และได้รับชำระเงินจำนวน 2,191 ล้านบาท

   ซึ่งการทำธุรกรรมทั้งหมดนี้ได้ส่งผลให้ บริษัทมีเงินทุนเพิ่มขึ้น 15,399 ล้านบาท และทำให้บริษัทมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งมากขึ้น โดย ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 บริษัทฯ มีเงินสด รายการเทียบเท่าเงินสด

   และสินทรัพย์ทางการเงินระยะสั้นอยู่ที่ 21,395 ล้านบาท คิดเป็น 53.9% ของทรัพย์สินรวม แสดงให้เห็นถึงความพร้อมสำหรับการลงทุน
เพื่อขยายธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้อง

   ขณะที่เป้าหมายรายได้ปี 2568/69 อยู่ที่ 6,000–6,500 ล้านบาท แบ่งเป็น สื่อโฆษณา 40% บริการดิจิทัล 35% ธุรกิจจัดจำหน่าย 25% และตั้งงบลงทุนไม่เกิน 1,000 ล้านบาท

   สำหรับการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 1.8% ลดลงจาก 2.5% ในปี 2567 โดยเติบโตจากการลงทุนของภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชน อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงจากหนี้ครัวเรือนสูงเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และมาตรการกีดกันทางการค้าจากสหรัฐฯ

   ด้านภาพรวมงบโฆษณาอาจได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว แต่บริษัทคาดว่าจะได้รับผลกระทบน้อย เนื่องจากสื่อโฆษณานอกบ้านยังเติบโตตามการขยายตัวของเมือง และการใช้งบโฆษณาในประเทศยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก

   นอกจากนั้นบริษัทได้เข้าทำสัญญาจ้างบริหารการขายสื่อโฆษณากับ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) (PlanB) โดย PlanB จะ เป็นผู้ดำเนินการขายและทำการตลาดสื่อโฆษณาของกลุ่ม VGI

   ซึ่งจะเพิ่มรายได้ให้กับ VGI จากการออกผลิตภัณฑ์สื่อโฆษณาใหม่ๆ ที่มีเอกลักษณ์ และเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและบริหารต้นทุน ส่งผลให้ความสามารถในการทำกำไรมากขึ้น

   นอกจากนั้นบริษัทยังมุ่งเน้นการปรับตัวสู่ดิจิทัลโซลูชันเพื่อลดความเสี่ยง และด้วยฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง บริษัทจะเดินหน้าหาโอกาสลงทุนต่อเนื่องในธุรกิจหลัก และที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มความสามารถแข่งขัน และการเติบโตอย่างยั่งยืน

   บริษัทได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2567/68 ในอัตรา 0.013 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 21 สิงหาคม 2568 ทั้งนี้การจ่ายปันผลดังกล่าวจำเป็นต้องได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 21 กรกฎาคม 2568

04 มิถุนายน 2568

ผู้ชม 151 ครั้ง

Engine by shopup.com