สถิติ

74700971

KBank Private BankingผนึกLombard Odier แนะบริหารความเสี่ยง  

   KBank Private BankingผนึกLombard Odier แนะบริหารความเสี่ยง

   สร้างโอกาสในช่วงตลาดผันผวนไปกับกองทุน K-ALLROADS Series

   จะดีแค่ไหนหากมีกลยุทธ์การลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอได้ในระยะยาว ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง KBank Private Banking เชื่อในหลักการลงทุนแบบ Risk-Based Asset Allocation ที่ให้ความสำคัญกับการจัดการความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน

   อีกทั้งยังกำหนดความเสียหายให้อยู่ในกรอบที่กำหนด และสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างสม่ำเสมอในทุกสภาพเศรษฐกิจ ผ่านการลงทุนในกองทุน K-ALL Roads Series ซึ่งเป็นนวัตกรรมการลงทุนที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนในสภาวะตลาดที่คาดเดายาก

   KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier เปิดมุมมองต่อเศรษฐกิจโลก โดยมองว่าอาจเกิดได้ใน 2 กรณี ได้แก่

   1.เศรษฐกิจได้รับผลกระทบแบบจำกัด มีโอกาสเกิดขึ้น 70% (Base Case) โดยมองว่าในที่สุดสหรัฐฯ จะประกาศเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 30% และจากประเทศอื่นๆ อีก 10%

   ทำให้ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในวงจำกัด เศรษฐกิจอาจเกิดการชะลอตัวแต่ไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยคาดว่า GDP สหรัฐฯ ปีนี้จะเติบโต 1.2% และ Fed จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 3.75% ภายในปีนี้

   2.เศรษฐกิจถดถอยรุนแรง / เกิดภาวะที่เศรษฐกิจซบเซาและมีเงินเฟ้อสูงพร้อมกัน หรือที่เรียกว่า Stagflation มีโอกาสเกิดขึ้น 30% (Risk Case) คือการที่สหรัฐฯ เดินหน้าเก็บภาษีเต็มรูปแบบตามที่ประกาศไว้เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่ผ่านมา ไม่มีการผ่อนปรน

   ส่งผลให้ GDP สหรัฐฯ โตได้เพียง 0.5% ขณะที่เงินเฟ้อยังคงสูง Fed อาจต้องลดดอกเบี้ยลงต่อเนื่อง เหลือเพียง 2.0% ในปีนี้ เพื่อพยุงเศรษฐกิจในภาวะ Stagflation

   จากความไม่แน่นอนนี้ Lombard Odier ผู้จัดการกองทุนหลักของกองทุน K-ALL Roads series ได้กำหนดเป้าหมายหลักในการบริหารกองทุนไว้ 3 ข้อ คือ สร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ปกป้องความเสียหายของเงินลงทุน และต้องมีสภาพคล่อง โดยมีวิธีการบริหารพอร์ต ดังนี้

  • ลงทุนเฉพาะในสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่อง
  • กระจายความเสี่ยง
  • ปรับพอร์ตอย่างต่อเนื่อง (รายวัน)
  • ควบคุมการขาดทุนสะสม

   ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กองทุน K-ALL ROAD Series ได้มีการปรับพอร์ตการลงทุนอย่างสม่ำเสมอและทันท่วงที เช่น ในช่วงต้นปี ที่ตลาดส่งสัญญาณเป็นบวก กองทุนมีสัดส่วนการลงทุนที่ 140% ผ่านการ Leverage

   ในทางกลับกัน หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษี ในช่วงวันที่ 2-9 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ความเสี่ยงในตลาดเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก กองทุนจึงได้ปรับลดการลงทุนในสินทรัพย์ทั้งหมดอย่างรวดเร็ว เหลือเพียง 60% เเพื่อลดความเสี่ยง

   จากนั้นกองทุนก็กลับมาเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และหุ้นกู้ มากขึ้น จากสัญญาณบวกที่ได้รับจากเครื่องมืองต่างๆ โดยสัดส่วนการลงทุนในปัจจุบันของกองทุน

   ได้ให้น้ำหนักในพันธบัตรรัฐบาลและพันฐบัตรที่อ้างอิงกับเงินเฟ้อ (Inflation-linked Bonds) สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต และให้น้ำหนักในหุ้นกู้และหุ้น ทั้งในตลาดพัฒนาแล้ว (Developed Market) และ ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 

   โดย KBank Private Banking ยังคงแนะนำให้ลงทุนในกองทุน K-ALL ROAD Series เป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดของพอร์ต (50-70%) เพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งสามารถลงทุนได้ในระยะยาว และไม่ต้องกังวลต่อความไม่แน่นอนของสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่อาจคาดเดาซึ่งส่งผลให้ตลาดผันผวน

   โดยนักลงทุนสามารถลงทุนใน กองทุน K-ALL ROAD Series ได้ตามระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของนักลงทุนแต่ละท่าน โดยสามารถทยอยเข้าลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่กองทุนได้มีการปรับลดสัดส่วนการลงทุนลง และถือเงินสด เพื่อลดความเสี่ยง นับเป็นจังหวะที่ดีในการเข้าลงทุน

29 พฤษภาคม 2568

ผู้ชม 116 ครั้ง

Engine by shopup.com