SINO โชว์โค้งแรกกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท พุ่งขึ้น 440%
SINO โชว์โค้งแรกกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท พุ่งขึ้น 440%
SINO โชว์โค้งแรกกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท พุ่งขึ้น 440%
ชี้Q2รับผลบวกสหรัฐฯนำเข้าสินค้าก่อน90วันเลื่อนขึ้นภาษี
“บมจ.ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น” หรือ SINO เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 ทำกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 440% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มธุรกิจ Sea Freight และบริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นผลมาจากการชนะการประมูลงานสำคัญ
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2 คาดว่าเติบโตต่อเนื่องหรือรักษาผลงานอยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสแรกที่ผ่านมา หลังผู้ประกอบการในสหรัฐฯ เร่งนำเข้าสินค้าก่อนครบกำหนดเลื่อนขึ้นภาษีตอบโต้ 90 วัน และลูกค้าส่วนหนึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับยกเว้นจากการขึ้นภาษีฯ ครั้งนี้
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (มกราคม-มีนาคม) ว่า สามารถสร้างการเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวม 819 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 27 ล้านบาท ซึ่งรวมกำไรพิเศษจากการขายทรัพย์สินที่ไม่ใช่ทรัพย์สินหลัก (non-core asset) เพิ่มขึ้น 5% และ 440% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ
แม้มีปริมาณการขนส่งสินค้า 11,617 ตู้ ชะลอตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเล (Sea Freight) ที่เป็นพอร์ตธุรกิจหลักมีรายได้ 756 ล้านบาท เติบโต 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และกลุ่มธุรกิจบริการสนับสนุนงานบริการ
โลจิสติกส์ มีรายได้ 47 ล้านบาท เติบโต 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การเติบโตในไตรมาสแรกที่ผ่านมา สะท้อนถึงความสามารถในการบริหารจัดการต้นทุน และการเดินหน้าตามแผนเชิงรุกของบริษัท โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าในต่างประเทศ การชนะงานประมูลสำคัญ และการเตรียมพร้อมในการให้บริการล่วงหน้าในเส้นทางที่มีความต้องการสูงอย่างไทย-สหรัฐฯ
ทั้งนี้แม้ค่าระวางเรือเฉลี่ยยังใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่บริษัทได้รับประโยชน์จากการวางแผนล่วงหน้าเพื่อใช้ระวางเรืออย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความต้องการขนส่งในเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ที่ยังคงมีต่อเนื่อง
เนื่องจากผู้ประกอบการในสหรัฐฯ มีความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น จากความไม่แน่นอนของการประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ ในช่วงก่อนหน้านี้ จึงเร่งนำเข้าสินค้าล่วงหน้า
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO กล่าวต่อไปว่า ส่วนสถานการณ์การขนส่งสินค้าระหว่างประเทศบนเส้นทางไทย-สหรัฐฯ ล่าสุดในเดือนเมษายนที่ผ่านมา มี 4 ปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
1) การเตรียมปรับขึ้นค่าธรรมเนียมจอดเรือขนส่งสินค้าที่สร้างจากประเทศจีนหรือสายเรือสัญชาติจีน อย่างไรก็ตามพบว่าผู้ประกอบการเรือขนส่งสินค้าเตรียมแผนรับมือด้วยการจัดหาเรือสัญชาติอื่นมาวิ่งทดแทนในเส้นทางสหรัฐฯ
2) การปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้าเหล็กและอลูมิเนียม 25% ของสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา 3) การปรับเพิ่มอัตราภาษีพื้นฐาน 10% กับการนำเข้าสินค้าจากประเทศที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา และ 4) การเลื่อนขึ้นภาษีตอบโต้รายประเทศ 90 วัน ซึ่งจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2568 นี้
อย่างไรก็ตามลูกค้าของบริษัทส่วนหนึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ได้รับการยกเว้นจากการปรับขึ้นอัตราภาษีครั้งนี้ เช่น สารเคมี, ชิ้นส่วนยานยนต์บางรายการ เป็นต้น ขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันพบว่าผู้ประกอบการในสหรัฐฯ ได้เร่งนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้นก่อนครบกำหนดเลื่อนขึ้นภาษีตอบโต้ 90 วัน อาทิ อาหาร, ยางล้อ, เคมีภัณฑ์, แผงโซลาร์เซลล์ ฯลฯ
ส่งผลให้เกิดการจองระวางเรือล่วงหน้าจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2568 รวมถึงสายการเดินเรือได้ปรับขึ้นค่าระวางแล้วประมาณ 20% นับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ดังนั้นจึงคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 2 จะยังคงเติบโตต่อเนื่อง หรืออยู่ในระดับเดียวกับไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้
15 พฤษภาคม 2568
ผู้ชม 125 ครั้ง