กลุ่มบริษัทบีทีเอส ชูแนวทางนำระบบ AI ฐานข้อมูลทางดิจิทัล
กลุ่มบริษัทบีทีเอส ชูแนวทางนำระบบ AI ฐานข้อมูลทางดิจิทัล
กลุ่มบริษัทบีทีเอส ชูแนวทางนำระบบ AI ฐานข้อมูลทางดิจิทัล
พัฒนาบริการรถไฟฟ้า ย้ำจุดยืน Net Zero งาน Asia Pacific Rail 2025
กลุ่มบริษัทบีทีเอส นำโดย นายสุมิตร ศรีสันติธรรม ผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยนายดาเนียล รอสส์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการลงทุน และหัวหน้าฝ่ายพัฒนาเพื่อความยั่งยืน
Mr. Geert Jacques Omer Warlop ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคและข้อมูล บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ร่วมเปิดงาน Asia Pacific Rail 2025 ณ ศูนย์นิทรรศการ และการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
พร้อมเข้าร่วมเสวนาภายใต้หัวข้อ Carbon footprint, Carbon credits, Green infrastructure - How have the buzzwords become a reality on the path to net zero และหัวข้อ Intermodal transport innovations to overcome the last mile hurdle
นายสุมิตร ศรีสันติธรรม กล่าวว่า นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่กลุ่มผู้จัดงาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบริษัท และเชิญมาร่วมงาน ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 ซึ่ง Asia Pacific Rail 2025 ก็เป็นงานที่รวบรวมผู้นำในภาคธุรกิจขนส่งระบบรางทั่วทั้งภูมิภาค
มาหารือแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น ถึงทิศทางระบบรางของเอเชียในอนาคต ผ่านการสัมมนาทางวิชาการ และยังมีการจัด นิทรรศการด้านระบบรางที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียจากบริษัททั้งในประเทศ และต่างประเทศ ดังนั้นบีทีเอสจะนำความรู้ที่ได้รับจากงานในครั้งนี้ มาพัฒนาการให้บริการของรถไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้บริษัทยังได้ร่วมจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว, รถไฟฟ้าสายสีทอง รถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (สายสีเหลือง) และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู รวมถึงส่วนต่อขยายสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี
นอกจากนี้ภายในงานนิทรรศการยังมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางปะอิน-นครราชสีมา (M6) และสายบางใหญ่-กาญจนบุรี (M81)
พร้อมด้วยโครงการสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งได้รับความสนใจจากนักวิชาการด้านระบบราง, กลุ่มนักศึกษา และบริษัทต่างๆ ที่เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก
นายดาเนียล รอสส์ กล่าวว่า แม้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ มีความภาคภูมิใจในการเป็นบริษัทขนส่งที่ยั่งยืนที่สุดในโลก แต่ปัจจุบันเส้นทางด้านความยั่งยืนของบริษัทได้ก้าวเข้าสู่ช่วงที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น
จากความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 เพื่อสนับสนุนให้ ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050
บีทีเอส ต้องร่วมกันปรับทิศทางระบบขนส่งของประเทศ โดยเน้นไปที่ระบบรางให้มากขึ้น แม้ว่าระบบรางจะเป็นระบบขนส่งที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
และเป็นเพียงระบบเดียวที่ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา แต่กลับมีส่วนแบ่งในตลาดที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นภาครัฐควรให้ความสำคัญกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานระบบรางในระดับภูมิภาค
เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งจากทางถนน และอากาศสู่ระบบราง รวมถึงเชื่อมโยงการขนส่งจากท่าเรือ และศูนย์กลางของประชากรเข้าด้วยกัน
Mr. Geert Jacques Omer Warlop กล่าวว่า บีทีเอส กรุ๊ปฯ อยู่ในช่วงการนำระบบ AI และการใช้ฐานข้อมูลจากระบบดิจิทัล เข้ามา เป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน ทั้งในส่วนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ที่เปิดใช้บริการมาอย่างยาวนานกว่า 25 ปี
รวมถึงรถไฟฟ้ามหานคร สายนัคราพิพัฒน์ (สายสีเหลือง) และรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ที่เปิดบริการมาแล้วกว่า 1 ปี โดยเริ่มจากการปรับเปลี่ยนสิ่งที่ทำได้อย่างรวดเร็ว
เช่น การพัฒนาพื้นที่จอดรถเพื่อให้รถสาธารณะสามารถรับ–ส่งผู้โดยสารได้อย่างสะดวก หรือการก่อสร้างอาคารจอดแล้วจร เพื่อให้ผู้โดยสารนำรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาใช้บริการได้ในราคาย่อมเยา และเดินทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนระบบการจ่ายเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ ก็มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผ่านบัตรแรบบิท ที่สามารถใช้เดินทางได้หลากหลายรูปแบบ อาทิ รถไฟฟ้า, เรือด่วนเจ้าพระยา และรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT
รวมถึงสามารถสะสมแต้มพิเศษ เพื่อใช้แลกเที่ยวเดินทาง และแลกรับส่วนลดอื่นๆ ได้ ที่สำคัญยังมีการจัดโปรโมชันแพ็กเกจเที่ยวเดินทางให้กับผู้โดยสาร เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทั้งแบบรายเดือน และแบบรายสัปดาห์ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการเชื่อมโยงระบบอิเล็กทรอนิกส์ กับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้โดยสาร
นอกจากนี้บริษัทยังมีการใช้ฐานข้อมูลจากระบบดิจิทัลมาวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายของแต่ละสถานี ว่าสถานีใดที่เน้นกลุ่มนักท่องเที่ยว หรือสถานีใดเน้นกลุ่มคนทำงานเป็นหลัก เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้น มาใช้ในการจัดวางประเภทร้านค้า หรือสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร
อย่างไรก็ตามตนมองว่าสภาพพื้นที่ของกรุงเทพมหานครที่มีความหนาแน่น ทำให้การพัฒนาเส้นทางเดินรถ หรือการใช้ระบบอัตโนมัติค่อนข้างทำได้ยาก แต่พื้นที่ชานเมือง
และ “สมาร์ทซิตี้” ยังมีพื้นที่ว่างให้พัฒนาอีกมาก ดังนั้นหากมีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เชื่อว่าจะทำให้พื้นที่ชานเมืองมีโครงข่ายการเดินทางที่มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บีทีเอส โทรศัพท์ 02-617- 6000 Line official : @btsskytrain และ Facebook Page : รถไฟฟ้าบีทีเอส หรือเช็กสถานะการเดินรถได้ที่ Application "THE SKYTRAINs"
03 มิถุนายน 2568
ผู้ชม 103 ครั้ง