เรียนรู้วิถี "อยู่ร่วมกับป่า" @ เขาใหญ่
เรียนรู้วิถี "อยู่ร่วมกับป่า" @ เขาใหญ่
เรียนรู้วิถี "อยู่ร่วมกับป่า" @ เขาใหญ่
โครงการตามรอยพระราชา ครั้งที่ 52
เมื่อปัญหาสิ่งแวดล้อมกลายเป็นประเด็นระดับโลกที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและความมั่นคงของมนุษย์อย่างรอบด้าน แนวทางในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างสมดุลและยั่งยืนจึงเป็นแนวทางที่จำเป็นและเร่งด่วน
แนวคิดดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย หากแต่เป็นหลักการที่ปรากฏชัดในศาสตร์พระราชา ซึ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนโดยไม่ทำลายรากเหง้าทางธรรมชาติและวัฒนธรรมของท้องถิ่น
โครงการ "ทิพยสืบสาน รักษา ต่อยอด นวัตกรรมศาสตร์พระราชา" ครั้งที่ 52 จัดขึ้น ณ จังหวัดนครราชสีมา โดยได้รับเกียรติจากนางรณิดา เหลืองฐิติสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี
และมี นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับคณะผู้เข้าร่วมโครงการ ซึ่งการจัดโครงการครั้งนี้ ต้องการที่จะส่งเสริมจิตสำนึกด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการน้อมนำแนวพระราชดำริมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต
โดยเฉพาะแนวทางการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ ตามหลักนวัตกรรมศาสตร์พระราชา อันเป็นแนวคิดที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้เป็นแนวทางการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทางโครงการได้พาคณะเดินทางไปยังอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ มรดกโลกทางธรรมชาติ และแหล่งโอโซน 1 ใน 7 ของโลก โดยได้ไปเยี่ยมชมศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย เพื่อศึกษาแนวทางการนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาประยุกต์ใช้ในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
ผู้เข้าร่วมได้ลงมือปฏิบัติในการผลิตปุ๋ยอินทรีย์จากมูลช้าง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและลดการเกิดของเสีย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้อาหารช้างและศึกษาพฤติกรรมของช้างไทยที่อยู่ในความดูแลของศูนย์ รวมทั้งการเรียนรู้เกี่ยวกับบทบาทของสุนัข K9 ในการอนุรักษ์สัตว์ป่า
จากนั้นคณะเดินทางเข้าสู่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขาแผงม้า เพื่อศึกษาระบบนิเวศ และเรียนรู้การติดตามพฤติกรรมของสัตว์ป่าโดยไม่รบกวนวิถีชีวิตของพวกเขา
กิจกรรมส่องกระทิงที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากจะมุ่งเน้นการสังเกตธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังช่วยสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของพื้นที่อนุรักษ์ และการอยู่ร่วมกันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ป่าอย่างยั่งยืนอีกด้วย
นางวิชชุดา ไตรธรรม ที่ปรึกษากรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ศาสตร์พระราชา ไม่เพียงเป็นแนวคิดเพื่อการพัฒนาประเทศในมิติเศรษฐกิจหรือเกษตรกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ
การจัดกิจกรรมในพื้นที่อนุรักษ์อย่างเขาใหญ่ทำให้ได้เห็นถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากธรรมชาติอย่างลึกซึ้ง ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สัตว์ป่า และวิถีชีวิตของชุมชนโดยรอบ
หวังว่าผู้เข้าร่วมทุกท่านจะสามารถน้อมนำแนวคิดเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในระดับชุมชนและสังคมโดยรวม
การดำเนินโครงการในครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนทางวิชาการจากโรงเรียนปัญญาประทีป สถานศึกษาต้นแบบด้านการบูรณาการการเรียนรู้เชิงวิถีพุทธ โดยได้มาแบ่งปันความรู้ผ่านการบรรยายในหัวข้อ "โรงเรียนต้นแบบ วิถีธรรม วิถีพุทธ" ที่เน้นการสร้างสมดุลระหว่างสติปัญญาและจิตใจ
โดย นายวิเชษฐ์ โพธิวิสุทธิ์วาที ผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้บรรยาย ได้อธิบายถึงกระบวนการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับธรรมชาติและวิถีชีวิตที่เรียบง่าย อันสะท้อนหลักการของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างไม่เบียดเบียนและเคารพซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ทางโครงการยังจัดให้มีการสัมมนาและเวิร์กช็อปเกี่ยวกับศาสตร์พระราชาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญ โดยมีวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิมาร่วมแบ่งปันความรู้
อาทิ รศ.นพ.สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการศูนย์คุณธรรม ดร.ดนัย จันทร์เจ้าฉาย ประธานมูลนิธิธรรมดี และอาจารย์อดุลย์ ดาราธรรม ที่ปรึกษาและอดีตนายกสมาคมนักเรียนเก่า AFS ประเทศไทย
ผู้คิดค้นนวัตกรรมสื่อการสอนสำหรับเยาวชนในศตวรรษที่ 21 หรือ Interactive Board Game หนึ่งเดียวในโลก เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2030
นอกจากการเรียนรู้จากธรรมชาติแล้ว โครงการยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชนผ่านการมอบทุนการศึกษาจากมูลนิธิธรรมดีให้แก่นักเรียนในพื้นที่ และมอบหนังสือจากโครงการ "อมรินทร์อาสา อ่านพลิกชีวิต" เพื่อส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ให้กับโรงเรียนที่มีความต้องการอีกด้วย
03 มิถุนายน 2568
ผู้ชม 97 ครั้ง